อิสราเอล เพิ่มโจมตีทางอากาศราฟาห์ ไม่ละแผนบุก

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567 คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล ได้หารือถึงแผนการขจัดกลุ่มฮามาสในราฟาห์ โดยไม่ยอมเปิดเผยว่าจะเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเมื่อไหร่ ขณะเดียวกัน อิสราเอลก็ยกระดับการโจมตีทางอากาศในเมืองราฟาห์หนักหน่วงขึ้น

ภาพความเสียหายของบ้านเรือนในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาติดกับชายแดนอียิปต์ หลังถูกโจมตีทางอากาศจากอิสราเอลอย่างหนักในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี

เจ้าหน้าที่การแพทย์ในปาเลสไตน์เผยว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศในราฟาห์ 5 รอบด้วยกัน ส่งผลให้มีบ้านเรือนเสียหายอย่างน้อย 3 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 6 คน ในจำนวนนี้มีนักข่าวท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย 1 คน

‘อับเดล คาริม อัล-เคิร์ด’ เด็กชายวัย 8 ขวบ ในเมืองราฟาห์บอกว่า การโจมตีเกิดขึ้นตอนที่เขาและพี่น้องกำลังนอนหลับกันอยู่ บ้านของเขาเสียหายยับเยิน และหากกองทัพอิสราเอลบุกเมืองราฟาห์ เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปอยู่ที่ไหน

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลส่งสัญญาณออกมาต่อเนื่องว่า จะไม่ละทิ้งปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ โดยล่าสุดโฆษกรัฐบาลอิสราเอลยังเผยว่า เมื่อวานนี้คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลได้ประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางการทำลายฐานหรือกองกำลังของฮามาสที่ยังเหลืออยู่ทั้งในเมืองราฟาห์และที่อื่นๆ แต่ไม่ยอมบอกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสงครามได้อนุมัติการเปิดปฏิบัติการภาคพื้นในราฟาห์หรือไม่ หรือจะเปิดฉากบุกเมื่อไหร่

การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นแม้มีเสียงคัดค้านแผนการบุกราฟาห์มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรหลักของอิสราเอล ที่เรียกร้องให้อิสราเอลล้มเลิกแผนการโจมตีราฟาห์จากความกังวลถึงหายนะด้านมนุษยธรรมที่จะยิ่งเลวร้ายลง

ขณะที่ ‘อิบราฮิม ไครชี’ (Ibrahim Khraishi) เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติเผยว่า ทางการปาเลสไตน์มีความกังวลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเมืองราฟาห์ ระดับสัญญาณเตือนเพิ่มสูงขึ้นทุกที ประชากรบางส่วนในราฟาห์กำลังอพยพออกจากเมืองเพราะว่ากังวลความปลอดภัยของครอบครัว แต่คำถามคือพวกเขาจะอพยพไปที่ไหนได้ ในเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้อพยพ

ขึ้นเหนือ

ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่าอิสราเอลได้กลับมาทิ้งระเบิดทางตอนเหนือและตอนกลางของฉนวนกาซาอีกด้วย เช่นเดียวกับทางตะวันออกของเมืองข่านยูนิสทางตอนใต้ โดยอิสราเอลบอกว่าเป้าหมายการโจมตีก็เพื่อทำลายกลุ่มฮามาส แม้ไม่ชัดเจนว่าจะทำลายฮามาสอย่างไร

สงครามในฉนวนกาซาใกล้เข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีในกาซาตอบโต้ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปราว 1,200 คน และอีกกว่า 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน

หน่วยงานสาธารณสุขในกาซาระบุว่าจนถึงตอนนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปในสงครามแล้วอย่างน้อย 34,305 คน และประชากรเกือบทั้งหมดในกาซาต้องพลัดถิ่น

แม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ได้ผ่านมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีในฉนวนกาซาและปล่อยตัวประกันทั้งหมดไปตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดก็แสดงให้เห็นว่า มติดังกล่าวไม่ได้รับการปฏิบัติตามจากคู่ขัดแย้งในสงคราม

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแรงกดดันจากนานาชาติพุ่งเป้าไปยังอิสราเอลหนักขึ้น โดยล่าสุดยังมีเสียงเรียกร้องจากผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในดินแดนปาเลสไตน์ให้นานาชาติคว่ำบาตรอิสราเอลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

‘ฟรานเชสกา อัลบานีส’ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองได้แถลงหลังเดินทางเยือนจอร์แดนและอียิปต์ โดยระบุว่าหน่วยงานให้ความช่วยเหลือพบผู้ป่วยจากการขาดอาหารเฉียบพลันเพิ่มขึ้นในกาซา ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยที่ถูกส่งมายังอียิปต์ส่วนใหญ่เป็นผู้บาดเจ็บจากระเบิดและการบาดเจ็บอื่นๆ จากสงคราม แต่ตอนนี้มีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นที่เผชิญกับการป่วยเรื้อรังและการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งจำนวนมาเป็นเด็ก

ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติยังระบุว่า สงครามในฉนวนกาซาแสดงให้เห็นว่าอิสราเอลได้ละเมิดพันธกรณีสากลไปหลายอย่าง และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ คว่ำบาตรอิสราเอลทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขด้วยการห้ามการค้าอาวุธและน้ำมันกับอิสราเอล

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อัลบานีสออกมาวิจารณ์และกดดันอิสราเอล โดยเมื่อเดือนที่แล้วเธอยังได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติในนครเจนีวาว่า ปฏิบัติการทางการทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เทียบเท่ากับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และเรียกร้องให้นานาชาติดำเนินมาตรการคว่ำบาตรและการห้ามค้าอาวุธต่ออิสราเอล

อย่างไรก็ตาม ในครั้งนั้นผู้แทนอิสราเอลในเจนีวาตอบโต้ว่า การใช้ถ้อยคำว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นการกล่าวหาที่อุกอาจ และยืนยันว่าการทำสงครามในกาซาคือสงครามต่อต้านฮามาส ไม่ใช่พลเรือนปาเลสไตน์ แม้ว่านี่จะขัดกับหลักฐานที่ชี้ว่ามีพลเรือนในกาซาเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลไปเป็นจำนวนมากก็ตาม

ฟรานเชสกา อัลบานีส เป็นนักกฎหมายชาวอิตาลี โดยเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสิทธิมนุษยชนกว่าสิบคนที่ได้รับการแต่งตั้งโดยสหประชาชาติเพื่อทำหน้าที่รายงานและให้คำแนะนำในประเด็นหรือวิกฤตเฉพาะ แต่ความเห็นของผู้รายงานพิเศษไม่ถือว่าสะท้อนจุดยืนของของสหประชาชาติในฐานะองค์กร

ทั้งนี้ สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาทวีความรุนแรงต่อเนื่องตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ประชากรจำนวนมากเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาดและยารักษาโรค เมื่อวานนี้รองผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติก็ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ทางตอนเหนือของกาซายังคงเดินหน้าสู่ภาวะทุพภิกขภัย และจำเป็นต้องมีการส่งความช่วยเหลือที่ต่อเนื่องและแน่นอนเข้าไปยังพื้นที่

ขณะที่ล่าสุด กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่า กองกำลังของสหรัฐฯ ประมาณ 1,000 นาย ได้เริ่มการก่อสร้างท่าเรือนอกชายฝั่งฉนวนกาซาแล้ว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซาให้ได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดใช้งานท่าเรือนี้ได้ในเดือนหน้า

การก่อสร้างท่าเรือนี้มีขึ้นหลังการประกาศของประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผานมา ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ยังมีคำสั่งห้ามทหารอเมริกันขึ้นฝั่งกาซา โดยการลำเลียงความช่วยเหลือจากท่าเรือดังกล่าวเข้าไปในกาซาจะเป็นการลำเลียงผ่านรถบรรทุกโดยองค์กรบุคคลที่สาม

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ทหารอเมริกันที่เข้าร่วมการก่อสร้างท่าเรืออาจต้องเผชิญจากสงครามในกาซาก็เป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งเช่นกัน เมื่อมีรายงานว่าเกิดเหตุยิงปืนครกโจมตีใกล้จุดที่จะมีการก่อสร้างท่าเรือเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

แม้ไม่มีทหารอเมริกันอยู่ในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากการโจมตีเกิดขึ้นก่อนการก่อสร้างท่าเรือจะเริ่มขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นที่กำลังตรวจสอบพื้นที่ต้องหาที่หลบภัย และโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกัน สงครามอิสราเอล-ฮามาส ในฉนวนกาซาก็ยังสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคต่อเนื่อง รวมถึงในพื้นที่อ่าวเอเดนซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลแดง เส้นทางเดินเรือการค้าที่สำคัญของโลก

เมื่อวานนี้ กลุ่มกบฏฮูตีที่มีอิหร่านหนุนหลังประกาศว่าได้โจมตีเรือเอ็มเอสซี ดาร์วิน (MSC Darwin) ในอ่าวเอเดน และยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในเมืองท่าไอแลตของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่ายังไม่มีความเห็นจากบริษัทเดินเรือเอ็มเอสซีซึ่งมีสำนักงานในสวิตเซอร์แลนด์ ยืนยันการโจมตีดังกล่าว

กบฏฮูตีเริ่มโจมตีเรือเดินสมุทรในแถบทะเลแดงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นการโจมตีเรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา จนถึงตอนนี้มีเรือกว่า 40 ลำที่ถูกโจมตี

แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีของกบฏฮูตีลดลง จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯ พุ่งเป้ายังเป้าหมายต่างๆ ของกบฏฮูตีในเยเมน และจำนวนเรือพาณิชย์ที่แล่นผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญคำพูดจาก pg เว็บตรง

กฟภ.กาง 6 กฎเหล็ก! เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดค่าไฟช่วงอากาศร้อนจัด

"ปรากฏการณ์เอนโซ" เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลเปลี่ยน ผลพวงจาก เอลนีโญ-ลานีญา

"เสรีพิศุทธ์" เชื่อ "บิ๊กโจ๊ก" ยังมีโอกาสกลับมาผงาดได้อีก